Sorry, your browser does not support JavaScript!
W3C
fontsizes fontsizem fontsizel
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์



 

             คงไม่อาจปฎิเสธได้ว่าวิกฤติเศรษฐกิจโลกมีผลกระทบทั่วไป ไม่เว้นแม้แต่สหกรณ์ นับแต่กลางปี 2551   เรื่อยมาถึงสิ้นปี วิกฤติเศรษฐกิจโลกถดถอยลงอย่างน่าตกใจมากเป็นประวัติการณ์ กระทบต่อทุกภาคส่วนธุรกิจ มีการปลดหรือให้ออกคนงาน สินค้าราคาแพง ประชาชนกำลังซื้อถดถอย สถาบันการเงินขาดเสถียรภาพ ขณะนี้ยังมองไม่เห็นว่าเมื่อไรจะฟื้นตัว แถมซ้ำเติมจากวิฤกติการเมืองที่ร้อนแรงเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งไม่สามารถคาดเดาว่าจะเป็นเช่นไร และเมื่อใดจะแก้ไขได้ ล้วนมีผลต่อระบบเศรษฐกิจทั้งสิ้น
               หากพิจารณาขบวนการสหกรณ์ไทยในเชิงปริมาณแล้วจะเห็นว่า ท่ามกลางเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ฟื้นตัวและยังขาดเสถียรภาพที่มั่นคงนั้น จำนวนสหกรณ์ของไทยกลับมิได้ลดน้อยถอยลงแต่อย่างใด การจดทะเบียนเป็นสหกรณ์เพิ่มเติมให้มีปริมาณมากขึ้นยังคงดำเนินต่อไป ปัจจุบันจำนวนสหกรณ์ไทยที่จดทะเบียนมีถึง 1.3 หมื่นสหกรณ์ ด้วยจำนวนสมาชิก 10 ล้านคนเศษ ซึ่งประมาณกันว่า หากครอบคลุมไปถึงภายในครัวเรือนสมาชิกด้วยแล้ว บทบาทของสหกรณ์ที่จดทะเบียนนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับชีวิตประชาชนไทยประมาณครึ่งประเทศเห็นจะได้
             มองผ่านเศรษฐกิจสหกรณ์ออมทรัพย์ในฐานะสถาบันการเงินประเภทหนึ่ง และเป็นภาพใหญ่เศรษฐกิจการเงินของขบวนการสหกรณ์ได้เป็นอย่างดี พบว่า ส่วนใหญ่ยังคงมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นในเชิงบวก แต่เริ่มจะเห็นสัญญาณส่อเค้าลางการถดถอยลงของธุรกิจ จากตัวเลขบ่งชี้ของรายได้ซึ่งแม้จะมีปริมาณเม็ดเงินที่เพิ่มขึ้น หากแต่อัตราการขยายตัวกลับปรับลดลงจาก 23.90 % ในปี 2550 เหลือ 12.27 % ในปี 2551 และมีผลต่อกำไรขยายตัวเพิ่มขึ้นเพียง 13.77% ต่ำกว่าการขยายตัวเพิ่มขึ้น 14.79% ในปี 2550 เพียงเล็กน้อย และส่งผลให้ทุนของสหกรณ์ขยายตัวเพียง 11.06% ต่ำกว่าการขยายตัวเพิ่มขึ้น 15.36%ในปี 2550 ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากย้อนกลับไปเทียบเคียงกับปีก่อนหน้านี้ พบว่า อัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นของรายได้ กำไร และทุนสหกรณ์ ในปี 2551 ยังสูงกว่าปี 2549-2548

               ธุรกิจสำคัญของสหกรณ์ออมทรัพย์ พบว่า ปริมาณการให้สินเชื่อขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 3.03% ในปี 2550 เป็น 10.02 % ในปี 2551 ขณะที่ปริมาณการรับฝากเงินลดลงจาก 29.80 % ในปี 2550 เหลือ 11.35 % ในปี 2551 ซึ่งเป็นการสะท้อนว่า สมาชิกมีรายได้ไม่พอเพียง ออมน้อยลง และกู้ยืมเพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อเทียบเคียงย้อนกลับปีก่อนหน้านี้ พบว่า ปริมาณการรับฝากเงินยังคงมีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่ใกล้เคียงกัน สำหรับสาเหตุของการปรับตัวลดลง เพราะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งระบบในปี 2551

              หากพิจารณาสถานะการเงินของสหกรณ์แล้วค่อนข้างสบายใจ ด้วยสหกรณ์ออมทรัพย์มีสัดส่วนทุนของสหกรณ์ค่อนข้างมากกว่าภาระหนี้กู้ยืมจากภายนอกถึง 6.75 เท่า โดยที่ทุนของสหกรณ์มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอในทุกปี ประกอบกับสหกรณ์มีปริมาณเงินฝากขยายตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากจาก 30.61% ในปี2550 เป็น 63.03% ในปี 2551 ขณะที่มีหนี้กู้ยืมจากภายนอกจากอัตราที่ลดลง 20.63% ปี 2550 เพิ่มขึ้นเพียง 15.40 % ในปี 2551 แสดงให้เห็นถึงสภาพคล่องทางการเงินที่ดี และสามารถดำเนินธุรกิจหมุนเวียนให้บริการสมาชิกได้อย่างต่อเนื่อง

               สำหรับแนวโน้มสิ้นปี2552 ยังคงเชื่อมั่นได้ว่า ธุรกิจสหกรณ์ออมทรัพย์จะยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งปริมาณธุรกิจ รายได้ และทุนของสหกรณ์

               ดังนั้น คงพอสรุปได้ว่า ณ ขณะนี้ วิกฤติเศรษฐกิจยังมีผลกระทบเศรษฐกิจสหกรณ์ค่อนข้างน้อย สหกรณ์ออมทรัพย์ยังคงดำเนินธุรกิจเป็นปกติ แม้จะมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวลดลง แต่ยังคงดำรงอยู่ได้และดำเนินธุรกิจเป็นปกติ นั่นเป็นเพราะทุนของสหกรณ์มั่นคงและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลพวงจากมวลสมาชิกสหกรณ์ที่มีการถือหุ้นสะสมรายเดือนและการฝากเงินออมสะสมอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ในทุกปี จึงส่งผลให้สหกรณ์มีปริมาณเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบอย่างต่อเนื่องเช่นกัน สามารถสร้างเป็นรายได้และผลกำไรที่เพิ่มขึ้นให้กับสหกรณ์ แต่อย่างไรก็ตามสหกรณ์คงต้องเฝ้าระมัดระวังและติดตามสถานการณ์ที่ยังไม่อาจคาดเดาได้ขณะนี้ว่าจะเป็นเช่นไร อย่างใกล้ชิด มีวินัยทางการเงิน และใช้ข้อมูลทางบัญชีเพื่อการบริหารจัดการเงิน พร้อมยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อตั้งรับและฝ่าข้ามวิกฤติเศรษฐกิจที่เปราะบางอยู่ขณะนี้
 
ที่มา : เพยาว์ กิมปฐม

ข่าว/บทความยอดนิยม ข่าว/บทความที่คะแนนโหวตสูงสุด ข่าว/บทความล่าสุด
Learning English : ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (22/03/2550)
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan: NPL) ของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรปี 2555
วิกฤตเศรษฐกิจกระทบเศรษฐกิจสหกรณ์ออมทรัพย์หรือไม่ อย่างไร...
บัญชีต้นทุนประกอบอาชีพช่วยเกษตรกรเรื่องภาษีได้
ผู้สอบบัญชีสหกรณ์มีบทบาทและหน้าที่ในการป้องกันและตรวจสอบการทุจริตในสหกรณ์ได้อย่างไร
รายงานภาวะเศรษฐกิจภาคสหกรณ์ไทยไตรมาส 4/2555
ครัวเรือนภาคสหกรณ์ออมเงินเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 12.34%
ภาวะเศรษฐกิจภาคสหกรณ์ไทยไตรมาส 3/2557
เสถียรภาพทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ปี 2556
ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรไทย ปี 2549 (28/03/2550)
สถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจของสหกรณ์ออมทรัพย์ และแนวโน้ม ปี 2568
สถานการณ์การค้าข้าวไทยและการรวบรวมผลิตผลข้าวเปลือกของภาคสหกรณ์์ไทยปี 2567
สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่มีส่วนขาดแห่งทุน
หนี้ที่ชำระไม่ได้ตามกำหนด/NPL ภาคสหกรณ์ไทย ในไตรมาส 2/2567
สุขภาพทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์
จำนวนคนอ่าน 41884 คน จำนวนคนโหวต 21 คน

  จำนวนคนโหวต 21 คน
โหวตคะแนนให้ข่าว/บทความนี้
1 2 3 4 5

  ระดับ 

  ให้ 1 คะแนน
 
10%
  ให้ 2 คะแนน
 
5%
  ให้ 3 คะแนน
 
19%
  ให้ 4 คะแนน
 
24%
  ให้ 5 คะแนน
 
43%
เกี่ยวกับเรา
  • ประวัติ
  • อาคารอนุรักษ์
  • ทำเนียบอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • ผังโครงสร้างกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมาย
  • ค่านิยมหลัก
  • วัฒนธรรมองค์กร
  • ทำเนียบ / สถานที่ตั้ง

  • กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    สงวนลิขสิทธิ์ 2559 - กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 12 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
    ศูนย์บริการประชาชน (Call Center) 0 2016 8888 โทรสาร 0 2282 0889
     

    Valid HTML 4.01 Transitional

    การแสดงผลหน้าเว็บไซต์จะสมบูรณ์ที่สุดสำหรับ Google Chrome และ Internet Explorer ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 650 pixel