Opportunity - โอกาส เหตุการณ์ สถานการณ์ที่เอื้ออำนวย มีสิ่งล่อตาล่อใจ เปิดโอกาสที่จะฉกฉวยผลประโยชน์เนื่องจากความบกพร่องหรือจุดอ่อนของระบบงาน หรือช่องว่างของกฎระเบียบที่เปิดโอกาสให้ทำได้
Pressure ความกดดัน ความกดดันและแรงกดดันเมื่อเกิดเหตุการณ์คับขันจากสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ มีความจำเป็นต้องการใช้เงิน
Incentive / Motive แรงจูงใจ แรงบันดาลใจ มีสิ่งจูงใจ แรงบันดาลใจจากเพื่อน ญาติพี่น้อง และคนใกล้ตัวชักจูงอยากรวยทางลัด อยากได้ทรัพย์สินของคนอื่น
Capability ความสามารถ มีความสามารถที่ทำได้ที่เกิดจากอุปนิสัย ความสามารถเฉพาะตัวของผู้ปฏิบัติงาน และลักษณะงานเอื้อประโยชน์ที่จะประพฤติมิชอบและทำทำการทุจริตได้
Rationalization มีเหตุผล มีเหตุผลเข้าข้างตนเองว่าสามารถทำได้ คนอื่นยังสามารถทำได้โดยไม่คิดว่าผิด มีความสามารถ และโอกาสที่เกิดจากตำแหน่งงาน ลาภยศที่ได้ มีอำนาจที่จะเลือกปฏิบัติ หรือเบี่ยงเบนพฤติกรรมไปในทางมิชอบได้ง่าย สาเหตุแห่งพฤติกรรมนี้เป็นสิ่งอันตรายมากที่สุด เนื่องจากผู้กระทำผิดเป็นผู้นำหรือผู้มีอำนาจ ยากที่ผู้ใต้บังคับบัญชาหรือบุคคลอื่นจะคัดค้านทัดทานได้ พลอยทำให้ลูกน้องและบุคลากรในระดับล่างเพิกเฉยทำเป็นไม่รับรู้ต่อพฤติกรรมที่มิชอบหรือบางครั้งต้องประพฤติมิชอบตามไปด้วย จนทำให้เกิดความรู้สึกและความคิดที่เป็นเรื่องปกติประหนึ่งเป็นวัฒนธรรมในองค์กร
Greed ความโลภ เกิดความละโมบโลภมาก เห็นคนอื่นทำผิดแล้วไม่ได้รับการลงโทษ จับไม่ได้จึงหลงผิดอยากทำบ้าง ไม่พึงพอใจในสิ่งที่ตนมี อยากมีเงินมีทองทรัพย์สมบัติมากกว่าที่ตนมี
Need ความต้องการอยากได้ ความต้องการหรือความจำเป็นที่ต้องการใช้เงิน มีปัญหาด้านการเงิน เงินไม่พอใช้จ่าย มีภาระต้องรับผิดชอบสูง จึงเป็นแรงกดดันให้ทำทุกสิ่งที่ทำได้เพื่อให้ได้เงินมา
Expectation ความคาดหวัง คาดหวังว่าสิ่งที่ตนกระทำไม่มีผู้อื่นล่วงรู้ และเอาผิดได้ หรือโอกาสที่จะถูกค้นพบการกระทำที่ผิด ถูกจับได้และรับการลงโทษน้อยมาก
แนวทางในการป้องกันและลดปัญหาการทุจริตในสหกรณ์
ความพยายามในการปิดกั้นมิให้เกิดสิ่งที่เป็นสาเหตุแห่งการทุจริตดังกล่าวข้างต้นเชื่อว่าจะช่วยให้ป้องกันและลดการกระทำที่นำไปสู่การทุจริตได้ ซึ่งขอเสนอแนวทางในการป้องกันและลดปัญหาการการทุจริตประพฤติมิชอบในสหกรณ์ ประกอบด้วย (1) การมีระบบการควบคุมภายใน ระบบสารสนเทศที่รัดกุม รอบคอบ มีการสอบทานและการตรวจสอบ (2) การสร้างกรอบและสร้างวินัย (3) การปลูกฝังให้บุคลากรในสหกรณ์ยึดมั่นต่อหลักคุณธรรม มีจริยธรรม จรรยาบรรณในการปฏิบัติงาน และ (4) การควบคุมและกำกับดูแลที่ดีจากผู้มีอำนาจกำกับดูแลภายนอก
(1) ระบบการควบคุมภายใน ระบบสารสนเทศที่รัดกุม
รอบคอบและเหมาะสม การไม่เปิดโอกาสหรือไม่ให้มีโอกาสในการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ สามารถทำได้โดยระบบการควบคุมภายในการดำเนินงานในสหกรณ์ที่รัดกุม ระบบสารสนเทศทางการบัญชีที่ดี สามารถตรวจสอบ สอบทานความถูกต้องได้ทุกขั้นตอน สามารถรวบรวมข้อมูลตัวเลขในการจัดทำและนำเสนอรายงานทางการเงินอย่างครบถ้วน ถูกต้อง ทันเวลา โดยสามารถตรวจสอบได้ มีการออกฎเกณฑ์ ระเบียบ และข้อบังคับ ถือเป็นแนวปฏิบัติให้แก่บุคลากร เป็นการปฏิบัติให้อยู่ในกรอบ และมีการลงโทษที่แรงพอที่จะไม่เป็นแรงจูงใจหรือบันดาลใจให้กล้ากระทำผิด
(2) การสร้างกรอบและสร้างวินัย
สหกรณ์ต้องมีกฎระเบียบ ผู้บริหารต้องเป็นผู้นำที่จะสร้างตัวอย่างที่ดีให้เกิดขึ้นในสหกรณ์ด้วยการอยู่ในกรอบเสมอ การสร้างกรอบในสหกรณ์โดยการกำหนดข้อบัญญัติ ข้อกำหนดจริยธรรม ข้อควรประพฤติ และข้อควรปฏิบัติ การตั้งระเบียบ วินัย กฎเกณฑ์ ระเบียบปฏิบัติ จากภายในองค์กรให้บุคลากรทุกระดับยอมรับและปฏิบัติตามด้วยความเต็มใจ โดยถือปฏิบัติสืบต่อไปจนเคยชินที่จะถูกซึมซับและยอมรับเป็นวัฒนธรรมองค์กร เป็นสิ่งที่ดีและเป็นที่คาดหวังของทุกองค์กรที่จะทำให้สัมฤทธิผล
(3) การปลูกฝังให้บุคลากรในสหกรณ์ยึดมั่นต่อหลักคุณธรรม มีจริยธรรม จรรยาบรรณในการปฏิบัติงาน
จริยธรรมหรือจรรยาบรรณในการปฏิบัติงาน หมายถึงศีลธรรมประจำวิชาชีพ สามารถสร้างขึ้นมาได้ ในทุกสาขาวิชาชีพจะมีการกำหนด จรรยาบรรณโดยผู้มีอำนาจในการควบคุมและกำกับดูแลตามหลักการของธรรมาภิบาล จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพต่าง ๆ มักจะกำหนดเกณฑ์อย่างต่ำที่เป็นคุณสมบัติของผู้ประกอบวิชาชีพ เช่นด้านความรู้ ประสบการณ์ ความสามารถ และความรับผิดชอบต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้เสีย สหกรณ์ต้องมีการกำหนดข้อบังคับทางด้านจริยธรรมหรือจรรยาบรรณที่เป็นลายลักษณ์อักษร รวมถึงนโยบายและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน สร้างความเข้าใจ สร้างการยอมรับ และให้มีการปฏิบัติตามหลักการจรรยาบรรณ แนวประพฤติ แนวปฏิบัติ ให้ประจักษ์แก่บุคคลภายนอกเป็นสัญลักษณ์ขององค์กร
(4) การควบคุมและกำกับดูแลที่ดีจากผู้มีอำนาจกำกับดูแลภายนอก
ผู้มีอำนาจในการควบคุมและกำกับดูแลที่ดี คือ นายทะเบียนสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และกรมส่งเสริมสหกรณ์ ต้องมีออกกฎระเบียบและข้อบังคับที่เข้มงวด และบทลงโทษที่รุนแรงที่จะไม่ก่อให้เกิดแรงจูงใจให้กระทำผิด ได้เปิดโอกาสให้ได้คิดตรึกตรองถึงโทษที่จะได้รับหากเสี่ยงต่อการประพฤติมิชอบ หากกฎระเบียบไม่เคร่งครัด ไม่เข้มงวดพอและบทลงโทษไม่รุนแรงพอ มักจะเป็นเหตุจูงใจ และมีเหตุผลเข้าข้างตนเองที่จะกระทำผิด ดังนั้นหน่วยงานที่มีอำนาจออกกฎหมายที่เข้มงวด พร้อมบทลงโทษที่รุนแรง มีการตัดสินลงโทษให้เห็นเป็นกรณีตัวอย่างให้เป็นที่ประจักษ์อย่างเด่นชัด ก็คาดว่าเป็นวิธีที่สามารถสกัดกั้นการทุจริตได้เป็นอย่างดีอีกทางหนึ่ง
ระบบการป้องกันและตรวจสอบการทุจริตในสหกรณ์
ในฐานะของผู้สอบบัญชีสหกรณ์ มีบทบาทและหน้าที่ในการป้องกัน สกัดกั้น ลด ขจัด การทุจริต ประพฤติมิชอบในสหกรณ์ได้โดยปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบแบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้
1. ระดับการควบคุมและกำกับดูแลที่ดี จากผู้มีอำนาจภายนอก ได้แก่ นายทะเบียนสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และกรมส่งเสริมสหกรณ์ มีการออกมาตรฐาน กฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับที่เข้มงวด พร้อมมีบทลงโทษที่รุนแรงหากมีการละเมิด รวมทั้งการควบคุมและกำกับดูแลที่ดีทั้งจากผู้มีอำนาจภายนอกและภายใน (ฝ่ายบริหาร) มีการวางระบบการปฏิบัติงาน ระบบสารสนเทศ กำหนดวินัย ข้อกำหนด แนวปฏิบัติ ที่ปลูกจิตสำนึกให้บุคลากรมีความซื่อสัตย์ มีศีลธรรม และที่สำคัญผู้บริหารมีการปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นที่ประจักษ์ และซึมซับในตัวบุคลากรจนกลายเป็นวัฒนธรรมที่ดีในองค์กร
2. ระดับการตรวจสอบ จากผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบกิจการสหกรณ์ ผู้ตรวจการสหกรณ์ และผู้ตรวจสอบภายในสหกรณ์ ทำหน้าที่สร้างความเชื่อมั่นต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายในเรื่องของความถูกต้อง โดยตรวจสอบการปฏิบัติงานของบุคลากรทุก ๆ ส่วนงาน และสอบทานเอกสารหลักฐานที่เป็นรายงานการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ รายงานทางการเงิน ว่ามีความถูกต้อง ครบถ้วน ตรงตามความเป็นจริงและปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ผู้มีอำนาจในระดับที่ 1 ได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด หรือไม่ หากพบว่ายังมีข้อบกพร่อง ต้องมีการรายงาน การสั่งการและมีข้อเสนอแนะให้ปรับปรุงแก้ไขให้ตรงตามความจริง เหมาะสมและทันเวลา
3. ระดับปฏิบัติงาน จากฝ่ายจัดการ โดยพนักงานทุกฝ่ายต้องทำหน้าที่ตามความรับผิดชอบของตนตามที่ผู้มีอำนาจ ผู้ควบคุมและกำกับดูแล ได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด หากผู้ปฏิบัติงานมีความซื่อสัตย์ และยึดมั่นต่อจริยธรรม ส่งผลให้ผลงานที่ได้มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อความถูกต้องและเป็นธรรม
จากการปฏิบัติงานทั้ง 3 ระดับในองค์กร(สหกรณ์) อย่างเป็นระบบ จะช่วยป้องกัน ลดระดับ และขจัดพฤติกรรมที่เป็นสาเหตุนำไปสู่การทุจริตได้ กล่าวคือ ในระดับที่ 1 การมีกฎระเบียบที่เข้มงวดพร้อมกับบทลงโทษที่รุ่นแรง คาดว่าจะสกัดความรู้สึกที่จะเข้าข้างตัวเองว่ามีโอกาส มีความหวังว่าจะทำโดยไม่ได้รับโทษ หรือรับโทษที่เบาคุ้มค่ากับผลประโยชน์ที่จะได้รับ นอกจากนี้การปลูกฝัง และสร้างจิตสำนึกในเรื่องวินัย จริยธรรม คาดว่าจะทำให้ลดความโลภได้ ในระดับ 2 การตรวจสอบ จะช่วยลดความรู้สึกที่คิดว่าตนเองมีความสามารถ มีเหตุผลว่าสามารถทำได้โดยไม่มีผู้อื่นรู้ ลดความคาดหวังที่จะเอาของคนอื่นมาเป็นของตน และในระดับที่ 3 การปฏิบัติงานของฝ่ายจัดการ หากมีการปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด มีความซื่อสัตย์ ทำให้ลดแรงกดดัน และความต้องการ ความจำเป็นทางด้านการเงิน ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าการปฏิบัติหน้าที่ในบทบาทของผู้สอบบัญชีสหกรณ์ทั้ง 3 ระดับดังกล่าวข้างต้นช่วยลดและขจัดต้นเหตุแห่งการทุจริตได้ทั้งด้าน โอกาส ความจำเป็น การมีเหตุผล ความสามารถเฉพาะ และความโลภ
26 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมาถือเป็นวันที่สหกรณ์ในประเทศไทยก้าวผ่าน 100 ปี ปัญหาการทุจริตในภาคสหกรณ์ยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มันถึงเวลาแล้วที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะนำแนวทางการป้องกันและลดปัญหาในการทุจริตในสหกรณ์ สู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามนโยบายรัฐของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการพัฒนากระบวนการสหกรณ์ให้โปร่งใสมากขึ้น โดยจะประกาศให้ปี 2559 เป็นปีแห่งการป้องกันการทุจริตในสหกรณ์
|