Sorry, your browser does not support JavaScript!
W3C
fontsizes fontsizem fontsizel
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์



 

สิรัลยา จิตอุดมวัฒนา

                    ธุรกิจสินเชื่อถือเป็นธุรกิจหลักในการสร้างรายได้ให้กับทุกสถาบันเกษตรกร ซึ่งส่วนใหญ่มีการกำหนดระเบียบ ข้อบังคับและมีการกำหนดผังโครงสร้างการปฏิบัติงานด้านสินเชื่ออย่างชัดเจน โดยเงินทุนของสถาบันเกษตรกรนั้นมาจากแหล่งภายใน ได้แก่ เงินรับฝากของสมาชิก ทุนเรือนหุ้น ทุนสำรอง และจากแหล่งภายนอก ได้แก่ เงินกู้ยืม เครดิตทางการค้า เป็นต้น และเนื่องจากเงินทุนดำเนินงานส่วนใหญ่ นำไปลงทุนในรูปของลูกหนี้เงินกู้และลูกหนี้อื่น ๆ จึงมีความเสี่ยงในการบริหารหนี้ให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบการเร่งรัดติดตามหนี้ ให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้ตามกำหนดให้มากที่สุด สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan : NPL) หรือ หนี้เสีย หรือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ คือ ลูกหนี้เงินกู้ของสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ของเอกชน ธนาคารพาณิชย์ของรัฐบาล บริษัทเงินทุน ซึ่งลูกหนี้เหล่านี้ไม่สามารถจะชำระดอกเบี้ยและเงินต้นคืนให้สถาบันการเงินเป็นระยะเวลาเกินกว่า 3 เดือนขึ้นไป การพิจารณาว่าลูกหนี้รายใดจะเป็น NPL หรือไม่ จะพิจารณาดูเป็นรายบัญชี และนับเฉพาะบัญชีที่ผิดนัดเกิน 3 เดือนขึ้นไป การเกิดวิกฤตในหนี้ NPL ที่ผ่านมา ทำให้สถาบันการเงินทั้งหลายต้องตั้งสำรองเผื่อหนี้จัดชั้นหนี้ที่สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก รวมทั้ง ทำการเพิ่มทุน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขและปรับสถานภาพทางการเงินของสถาบันเหล่านั้น 
                      สหกรณ์เป็นสถาบันทางเศรษฐกิจและขบวนทางสังคม ที่รวมตัวกันก่อตั้งเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในการประกอบอาชีพของสมาชิก ประกอบด้วยสหกรณ์ภาคการเกษตร สหกรณ์นอกภาคการเกษตรและกลุ่มเกษตรกร ข้อมูลสิ้นสุดปีบัญชี 2555 ( 1 เม.ย.54 – 31 มี.ค.55) มีจำนวน รวมทั้งสิ้น 10,631 แห่ง เกิดจากการรวมตัวของสมาชิกในระบบกว่า 11.5 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 17.90 ของประชากรทั้งประเทศ มีสินทรัพย์ในภาพรวมจำนวนเงิน 1.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 20.00 การดำเนินธุรกิจโดยรวมมีมูลค่าทั้งสิ้น 1.9 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 11.76 ธุรกิจที่มีสัดส่วนสูงสุดในระหว่างปีได้แก่การให้สินเชื่อแก่สมาชิกจำนวน 1.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 9.09 ในจำนวนนี้มีสินเชื่อด้อยคุณภาพไม่สามารถชำระได้ตามกำหนดหรือ NPL จำนวน 29,878.57 ล้านบาท ปีก่อนจำนวน 25,884.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 15.43 ซึ่งสัดส่วนของ NPL ต่อการให้สินเชื่อรวม คิดเป็นร้อยละ 2.29 หากพิจารณาเปรียบเทียบ NPL ของสถาบันเกษตรกับระบบธนาคารพาณิชย์ไทย ณ สิ้นปี 2555 คิดเป็นร้อยละ 11.75 โดยยอด NPL คงค้าง ปี 2555 ของระบบธนาคารพาณิชย์ มีจำนวน 254,200 ล้านบาท (ที่มา ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย)          
                    จากตารางข้างต้นแสดงให้เห็นว่า จำนวนลูกหนี้เงินให้กู้คงค้างสิ้นปีส่วนใหญ่ซึ่งมีจำนวนเกินกึ่งของลูกหนี้เงินให้กู้ทั้งสิ้นหรือเท่ากับร้อยละ 92.25 เป็นลูกหนี้ของสหกรณ์นอกภาคการเกษตร ประกอบด้วยสหกรณ์ออมทรัพย์สูงสุดร้อยละ 89.28 รองลงมาได้แก่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนร้อยละ 2.52 สหกรณ์บริการร้อยละ 0.44 และสหกรณ์ร้านค้าร้อยละ 0.01 หากพิจารณาตัวเลขด้านการสะสมเงินออมและหนี้สินของสมาชิกต่อรายสมาชิกของสถาบันเกษตรกร และวัตถุประสงค์ของการใช้ประโยชน์จากเงินกู้ยืม พบว่า
                    สมาชิกของสถาบันเกษตรกร ประเภทสหกรณ์นอกภาคการเกษตรมีเงินออมสะสมต่อรายและภาระหนี้สินฉลี่ยต่อรายสูงสุด ทั้งนี้เนื่องจากระบบสหกรณ์ออมทรัพย์ดำเนินธุรกิจด้านการเงินเช่นเดียวกับธนาคารพาณิชย์ เปิดให้บริการรับฝากเงินด้วยอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าสถาบันการเงินอื่นโดยได้รับการยกเว้นภาษี ณ ที่จ่าย อีกทั้งมีการขยายวงเงินให้กู้กับสมาชิกอย่างต่อเนื่องทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบจำนวนมาก ด้านวัตถุประสงค์การกู้ยืมของสมาชิกสถาบันเกษตรกรส่วนใหญ่ใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคสูงสุด จำนวน 296,122 ล้านบาทหรือร้อยละ 26.96 รองลงมาเป็นการกู้เพื่อซื้อทรัพย์สิน จำนวน 254,086 ล้านบาทหรือร้อยละ 23.13 และกู้ยืมเพื่อชำระหนี้สินเดิม จำนวนเงิน 243,546 ล้านบาทหรือร้อยละ 22.18 ของยอดสินเชื่อระหว่างปีทั้งสิ้น ด้านความสามารถในการผ่อนชำระคืนของสมาชิก ในระหว่างปีสมาชิกส่งชำระหนี้ทั้งสิ้น 962,919 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 74.12 ของหนี้คงเหลือสิ้นปี
                    บทสรุป จะเห็นได้ว่าจากการเปรียบเทียบสถานการณ์ NPL ในภาพรวมของสถาบันเกษตรกร ในรอบ 3 ปี แนวโน้มการขยายตัวเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่ถึงขั้นจะเป็นปัญหาร้ายแรง ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเพราะลูกหนี้โดยเฉพาะสหกรณ์นอกภาคเกษตรยังมีความสามารถในการชำระหนี้คืนได้ตามกำหนด เนื่องจากลูกหนี้มีเงินเดือนประจำสหกรณ์สามารถหักรายได้ ณ ที่จ่าย ชำระหนี้ทันที แต่สำหรับลูกหนี้ภาคเกษตรซึ่งประชากรส่วนใหญ่ของประเทศยังประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก มีปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน อาทิ สภาพดินฟ้าอากาศ ราคาผลผลิตและต้นทุนการผลิตไม่สอดคล้องกัน ส่งผลให้ส่วนใหญ่มีรายได้น้อยกว่าหนี้สิน นอกจากนี้นโยบายของรัฐบาล เช่น การเพิ่มรายได้แรงงานรายวัน และปรับฐานเงินเดือนวุฒิปริญญาตรี การรับจำนำข้าวเปลือก โครงการรถยนต์คันแรก และโครงการบ้านหลังแรก ซึ่งออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ในทางตรงกันข้ามอาจส่งผลให้ประชาชนมีภาระหนี้สินเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นสถาบันเกษตรกรควรป้องกันปัญหาที่ลูกหนี้อาจไม่สามารถผ่อนชำระหนี้คืนได้ ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นเพราะการปล่อยสินเชื่อของสถาบันฯ เป็นไปเพื่อมุ่งแต่จะขยายขนาดปริมาณสินเชื่อโดยมิได้คำนึงถึงคุณภาพของสินเชื่อที่ปล่อย หรือใช้ความรอบคอบในการพิจารณาการกู้ยืมเงินของสมาชิกนั้นเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการขอกู้ตามที่แจ้งไว้ รวมถึงกำลังความสามารถในการ ชำระหนี้ หรือจัดโครงการประกันหมู่เพื่อลดภาระของผู้ค้ำประกัน ก็จะเป็นทางหนึ่งอันจะช่วยให้สมาชิกมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสมดังหลักการ อุดมการณ์ของสถาบันเกษตรกร

------------------------------------------------

แหล่งที่มา: กลุ่มวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ 
                กรมตรวจบัญชีสหกรณ์, พ.ศ.2555
ข่าว/บทความยอดนิยม ข่าว/บทความที่คะแนนโหวตสูงสุด ข่าว/บทความล่าสุด
Learning English : ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (22/03/2550)
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan: NPL) ของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรปี 2555
วิกฤตเศรษฐกิจกระทบเศรษฐกิจสหกรณ์ออมทรัพย์หรือไม่ อย่างไร...
บัญชีต้นทุนประกอบอาชีพช่วยเกษตรกรเรื่องภาษีได้
ผู้สอบบัญชีสหกรณ์มีบทบาทและหน้าที่ในการป้องกันและตรวจสอบการทุจริตในสหกรณ์ได้อย่างไร
รายงานภาวะเศรษฐกิจภาคสหกรณ์ไทยไตรมาส 4/2555
ครัวเรือนภาคสหกรณ์ออมเงินเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 12.34%
ภาวะเศรษฐกิจภาคสหกรณ์ไทยไตรมาส 3/2557
เสถียรภาพทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ปี 2556
ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรไทย ปี 2549 (28/03/2550)
สถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจของสหกรณ์ออมทรัพย์ และแนวโน้ม ปี 2568
สถานการณ์การค้าข้าวไทยและการรวบรวมผลิตผลข้าวเปลือกของภาคสหกรณ์์ไทยปี 2567
สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่มีส่วนขาดแห่งทุน
หนี้ที่ชำระไม่ได้ตามกำหนด/NPL ภาคสหกรณ์ไทย ในไตรมาส 2/2567
สุขภาพทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์
จำนวนคนอ่าน 57680 คน จำนวนคนโหวต 33 คน

  จำนวนคนโหวต 33 คน
โหวตคะแนนให้ข่าว/บทความนี้
1 2 3 4 5

  ระดับ 

  ให้ 1 คะแนน
 
6%
  ให้ 2 คะแนน
 
3%
  ให้ 3 คะแนน
 
9%
  ให้ 4 คะแนน
 
12%
  ให้ 5 คะแนน
 
70%
เกี่ยวกับเรา
  • ประวัติ
  • อาคารอนุรักษ์
  • ทำเนียบอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • ผังโครงสร้างกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมาย
  • ค่านิยมหลัก
  • วัฒนธรรมองค์กร
  • ทำเนียบ / สถานที่ตั้ง

  • กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    สงวนลิขสิทธิ์ 2559 - กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 12 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
    ศูนย์บริการประชาชน (Call Center) 0 2016 8888 โทรสาร 0 2282 0889
     

    Valid HTML 4.01 Transitional

    การแสดงผลหน้าเว็บไซต์จะสมบูรณ์ที่สุดสำหรับ Google Chrome และ Internet Explorer ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 650 pixel